
สถาบันหลักคำสอนพระคัมภีร์
สำหรับผู้ที่สอนใจในพระคำของพระเจ้า
บทเรียนพระคัมภีร์สำหรับเยาวชน
"ปฐมกาล" (บทเรียน 4-6)

บทที่ 4
การรื้อฟื้นโลก : วันที่ 1
หัวข้อเรื่อง : วันแรกของการฟื้นฟู
คำศัพท์ : เนรมิตสร้าง การอัศจรรย์ สมบูรณ์แบบ ความหายนะ
ข้อพระคัมภีร์ : “ความอุปถัมภ์ของเราอยู่ในพระนามของพระเจ้า ผู้ทรงสร้างฟ้าสวรรค์และแผ่นดินโลก” (สดุดี 124:8)
บทความ : นานมาแล้ว เป็นเวลาที่ไม่มีจักรวาล ไม่มีโลก ไม่มีดวงจันทร์ ไม่มีดวงอาทิตย์ ไม่มีดวงดาวใดๆ ในทันใดนั้น จักรวาลทั้งหมดก็ปรากฎขึ้น พระเจ้าทรงสร้างฟ้าและแผ่นดินอย่างไร? พระองค์ตรัสและมันก็เกิดขึ้น
“ในปฐมกาลพระเจ้าทรงเนรมิตสร้างฟ้าและแผ่นดิน” (ปฐมกาล 1:1)
พระองค์เพียงตรัสพระดำรัส และจักรวาลก็ถูกสร้างขึ้น (สดุดี 33:6; ฮีบรู 1:3) เป็นการอัศจรรย์ที่พระเจ้าทรงเนรมิตสร้างฟ้าและแผ่นดินจากความว่างเปล่า (สดุดี 8:3)
พระเจ้าไม่ได้บอกเราว่าแรกเริ่มนั้นโลกเป็นอย่างไร แต่มันต้องสวยงามมาก ไม่มีพายุ อากาศดีมาก ไม่ร้อนเกินไป หรือไม่หนาวเกินไป ไม่มีน้ำท่วม ไม่มีภูเขาไฟ ไม่มีแผ่นดินไหว ทุกอย่างดีหมด ใครนะสร้างสถานที่ที่สมบูรณ์แบบนี้ขึ้น? พระเจ้าไงล่ะ
แล้ว สิ่งที่น่ากลัวก็เกิดขึ้น ลูซิเฟอร์ ผู้ดูแลที่พระเจ้าทรงเลือกไว้อารักขาพระที่นั่ง เกิดความอิจฉาพระเจ้า เขาตัดสินใจที่จะไม่เชื่อฟังพระเจ้า หลังจากนั้นมีเหล่าทูตสวรรค์ส่วนหนึ่งก็ตัดสินใจที่จะ ปฎิเสธพระเจ้า และอยู่ฝ่ายซาตานโดยเข้าร่วมก่อการกบฎ พวกเขาทำบาปต่อต้านพระเจ้า และบาปของเขาทำลายความสัมพันธ์กับพระเจ้า ลูซิเฟอร์สูญเสียตำแหน่งที่สง่างามข้างๆพระที่นั่งของพระเจ้า พระเจ้าตั้งชื่อใหม่ให้แก่ลูซิเฟอร์ นั่นก็คือ ซาตาน - ศัตรูของพระเจ้า น้องคิดว่าซาตานกับพวกจะไปอยู่ที่ใหน? ก็ที่โลกใหม่สวยงามของพระเจ้านี่ไง!
“โอ ดาวประจำกลางวันเอ๋ย พ่อโอรสแห่งพระอรุณ เจ้าร่วงลงมาจากฟ้าสวรรค์แล้วซิ”
(อิสยาห์ 14:12ก)
ทุกสิ่งทุกอย่างที่ซาตานและทูตสวรรค์ฝ่ายซาตานได้สัมผัสล้วนเกิดความหายนะ พระเจ้าได้ทรงสร้างโลกสวยงามและสมบูรณ์แบบ แต่เดี๋ยวนี้มันไม่น่าอยู่เลย ไม่เหมือนที่พระเจ้าทรงประสงค์ไว้ (อิสยาห์ 45:18) พระเจ้าจึงทำให้น้ำท่วมโลก และทรงเคลื่อนแสงสว่างกับความร้อนออกไป เหลือไว้แต่ความมืดอันว่างเปล่า ความหนาวเย็น และโลกที่ปราศจากชีวิตทั้งสิ้น (ปฐมกาล 1:2ก; เยเรมีห์ 4:23; 2 เปโตร 3:5ข)
“แต่แผ่นดินก็กลายเป็นว่างเปล่า ความมืดมาอยู่เหนือน้ำ” (ปฐมกาล 1:2ก)
นี่แหละคือ “ไอซ์ เอจ” ที่แท้จริง! หลังจากหลายๆ ปีได้ผ่านไป พระเจ้าทรงเริ่ม “การรื้อฟื้นโลก” เพื่อให้โลกได้น่าอยู่เหมือนเดิม สิ่งแรกที่พระองค์ต้องทำคือ ละลายน้ำแข็ง
“และพระวิญญาณของพระเจ้า [พระวิญญาณบริสุทธิ์] ปกอยู่เหนือน้ำนั้น” (ปฐมกาล 1:2ข)
เมื่อเราอ่านจากพระคัมภีร์ต้นฉบับภาษาฮีบรู แทนที่จะอ่านคำว่า “ปกอยู่เหนือ” เราได้อ่านคำว่า רחף (อ่านว่า “รา-คาฟ”) ซึ่งมีความหมายเดียวกับแม่ไก่ที่กำลังกกลูกไก่ (คำนี้ก็ปรากฏในเฉลยธรรมบัญญัติ 32:11 แต่พูดถึงนกอินทรีแทน) พระวิญญาณบริสุทธิ์อยู่เหนือน้ำแข็ง ให้ความอบอุ่นแก่โลกเหมือนกับที่แม่ไก่ได้กกลูกของมัน น้ำแข็งจึงละลาย การรื้อฟื้นโลกได้เริ่มขึ้นแล้ว!
และในวันแรกพระเจ้าสร้างความสว่างในจักรวาลอีกครั้งหนึ่ง
“พระเจ้าตรัสว่า ‘จงให้มีความสว่าง’ แล้วความสว่างก็เกิดขึ้น พระเจ้าทรงเห็นว่าความสว่างนั้นดี และพระเจ้าทรงแยกความสว่างนั้นออกจากความมืด พระเจ้าทรงเรียกความสว่างนั้นว่า วัน และพระองค์ทรงเรียกความมืดนั้นว่า คืน มีเวลาเย็นและเวลาเช้าเป็นวันที่หนึ่ง” (ปฐมกาล 1:3-5)
การประยุกต์ใช้หลักคำสอนพระคัมภีร์ :
1. ตั้งแต่เวลาหลายพันล้านปีก่อนที่เราจะเกิด พระเจ้ามีแผนการสำหรับเราแต่ละคน แผนการของพระองค์นั้นได้จัดเตรียมชีวิตและให้สถานที่พักอาศัยแก่เรา ส่วนคนที่เชื่อในพระเยซูคริสต์ในฐานะเป็นพระผู้ช่วยให้รอด พระองค์ยังเตรียมที่อยู่นิรันดร์ในสวรรค์ให้เราเมื่อเราจากโลกไปแล้ว
2. จงจำไว้ว่าพระเจ้าอยู่กับน้องเสมอ ทั้งกลางคืนและกลางวัน (ฮีบรู13:5ข) พระองค์ทรงสร้างทั้งกลางคืนและกลางวัน ถ้าน้องได้เชื่อในพระเยซูคริสต์แล้ว น้องเป็นสมาชิกในครอบครัวของพระเจ้า (ยอห์น 1:12) พระเจ้าจะดูแลน้องเสมอ
3. พระเจ้าทรงรื้อฟื้นโลกให้เป็นบ้านที่สมบูรณ์แบบสำหรับเรา เพื่อเราจะมีชีวิตที่ดี และได้เรียนรู้ที่จะรักและเชื่อฟังพระเจ้า
“นี่เป็นข้อความที่เราได้ยินจากพระองค์ และบอกแก่ท่านทั้งหลาย คือว่าพระเจ้าทรงเป็นความสว่าง และความมืดในพระองค์ไม่มีเลย” (1 ยอห์น 1:5)
บทที่ 4-9 (คำนำ)
การทรงเนรมิตสร้าง และการรื้อฟื้นโลก
ข้อพระคัมภีร์ : “พระองค์ทรงดำรงอยู่ก่อนสรรพสิ่งทั้งปวง และสรรพสิ่งทั้งปวงเป็นระเบียบอยู่โดยพระองค์” (โคโลสี 1: 17)
“จงรู้เถิดว่า พระผู้เป็นเจ้า [พระเยซูคริสต์] ทรงเป็นพระเจ้า คือพระองค์เองที่ทรงสร้างเราทั้งหลาย และเราก็เป็นของพระองค์เราเป็นประชากรของพระองค์ เป็นแกะแห่งทุ่งหญ้าของพระองค์”
(สดุดี 100:3)
คำศัพท์ : ความสับสนวุ่นวาย การพิพากษาของพระเจ้า การรื้อฟื้นโลก จักรวาล
หลังจากที่พระเจ้าพิพากษาซาตานและทูตสวรรค์ที่ล้มลงในบาป (อิสยาห์ 14:12) พวกมันได้ไปยังโลกที่สมบูรณ์แบบและสวยงาม ขณะที่พวกมันอยู่ที่นั่น พวกมันได้เปลี่ยนดาวเคราะห์ดวงนี้ให้กลายเป็นเหมือนถังขยะใบใหญ่มหึมา พระเจ้าจึงทรงขับไล่ซาตานและทูตสวรรค์ที่อยู่ฝ่ายมันให้ออกไปจากโลก และทรงเคลื่อนแสงสว่างกับความร้อนไปหมด (กลายเป็นยุคน้ำแข็งและการสูญพันธุ์ของไดโนเสาร์และสิ่งมีชีวิตอื่นๆ ทุกชนิด)
ครั้งหนึ่งโลกเคยเป็นสถานที่ที่สมบูรณ์แบบ แต่ตอนนี้อ้างว้างเงียบเหงา และเต็มไปด้วยความมืด (ปฐมกาล 1:1-2ก) อย่างไรก็ตาม พระเจ้ามิได้ทรงสร้างโลกเพื่อเอาไว้รวบรวมความหายนะและความว่างเปล่า พระองค์มีความมุ่งมั่นที่จะใช้โลกเป็นที่อยู่อาศัย ดังนั้น พระองค์จึงต้องการรื้อฟื้นโลกให้สวยงามเหมือนเดิมอีกครั้งหนึ่ง
“พระเจ้าเองทรงปั้นแผ่นดินโลกและทำมันไว้ พระองค์ทรงสถาปนามันไว้
พระองค์มิได้ทรงสร้างมันไว้ให้ยุ่งเหยิง พระองค์ทรงปั้นมันไว้ให้มีผู้อาศัย”
(อิสยาห์ 45:18)

บทที่ 5
การรื้อฟื้นโลก : วันที่ 2 และ 3
หัวข้อเรื่อง : การฟื้นฟูบรรยากาศของโลก แผ่นดิน และ ทะเล
คำศัพท์ : บรรยากาศของโลก การออกแบบ การฟื้นฟู
บทความ : ในวันที่ 1 ของการรื้อฟื้นโลก พระเจ้าตรัสว่า “ ‘จงเกิดความสว่าง’ และความสว่างก็เกิดขึ้น” (ปฐมกาล 1:3) และทรงแยกความสว่างออกจากความมืด, และวันแรกก็ผ่านไป เหลืออีก 5 วันที่พระองค์จะรื้อฟื้นโลก
ในวันที่ 2 พระเจ้าสร้างอากาศรอบๆโลกด้วยถ้อยคำของพระองค์ (ปฐมกาล 1:6-7) โลกยังถูกปกคลุมไว้ด้วยน้ำที่ลึก พระเจ้าทรงแยกน้ำออกเป็น 2 ส่วน แยกเป็นส่วนบน และส่วนล่าง โดยอากาศที่เราหายใจ คือ บรรยากาศ ได้อยู่ระหว่างน้ำส่วนบนและน้ำส่วนล่างนั้น น้ำส่วนบนล้อมรอบภาคพื้นไว้อยู่เหนือบรรยากาศ พระเจ้าสั่งต่อว่า
“น้ำที่อยู่ใต้ฟ้าจงรวมอยู่แห่งเดียวกัน และที่แห้งจงปรากฎขึ้น” (ปฐมกาล 1:9ข)
โลกของเราเหมือนลูกบอลกลมๆ ถ้าเราเทน้ำลงบนลูกบอล มันก็จะไหลล้นไปจนทั่ว น้ำจะล้นไปเรื่อยๆไม่สนใจว่าเราอยากให้มันไปทางใหน แต่ด้วยพลังอำนาจ พระดำรัสของพระเจ้าตรัสสั่งน้ำว่า
“เจ้าไปได้ไกลแค่นี้แหละ อย่าเลยไปอีก และคลื่นคะนองของเจ้าหยุดเพียงแค่นี้แหละ” (โยบ 38:11)
พระเจ้าเป็นผู้ทรงก่อตั้งกฎธรรมชาติทุกประการ ไม่มีใครอาจฝ่าฝืนกฎธรรมชาตินั้นได้ น้ำยังต้องเชื่อฟังพระเจ้า แล้วรวมตัวกันเป็นมหาสมุทร และทะเล และแผ่นดินซึ่งเราอาศัยอยู่ตอนนี้ก็ปรากฎขึ้น ธรรมชาติเชื่อฟังพระเจ้าเสมอ ตอนนี้ก็มีแผ่นดินแล้ว และแผ่นดินพร้อมแล้วที่จะปลูกพืช พระเจ้าทรงออกแบบและสร้างพืชทุกชนิด
พระเจ้าตรัสสั่งต่อว่า
“แผ่นดินจงเกิดพืช คือ ผักหญ้าที่มีเมล็ด และต้นไม้ที่ออกผลมีเมล็ด
ตามผลของมันบนแผ่นดิน” ก็เป็นดังนั้น (ปฐมกาล 1:11ข)
หญ้าก็ขึ้นโดยเร็ว มันอ่อนนุ่มเขียวขจีเหมือนกับพรม ผักต่างๆขึ้นมา ต้นที่มีผลไม้ที่น่ารักก็ขึ้นมาจากแผ่นดิน และในทันทีที่พระเจ้าตรัสสั่ง ก็มีเมล็ดพันธุ์มากมายในพืชและในผัก และในผลไม้แต่ละพันธุ์ เติบโตขึ้นเป็นต้นแรก
จงมองดูที่เมล็ดพันธุ์เล็กๆเหล่านั้นที่พระเจ้าใส่ไว้ในแอ๊ปเปิ้ลแต่ละลูก นั่นคือแผนการของพระเจ้า และเป็นการสัญญาว่าจะมีต้นแอ๊ปเปิ้ลขยายพันธุ์อีกมากมาย
การประยุกต์ใช้หลักคำสอนพระคัมภีร์ :
1. พระเจ้าทรงสั่งให้แผ่นดินผลิตพืชพันธุ์ทุกชนิด ยิ่งไปกว่านั้น พืชยังเกิดขึ้นตามที่พระเจ้าได้วางแผนไว้ ต้นแอ๊ปเปิ้ลจะไม่มีวันเกิดลูกทูเรียน หรือสาหร่ายไม่ขึ้นอยู่บนต้นกระบองเพชร โดยการเชื่อฟังพระเจ้า ผลงานเหล่านี้ก็สรรเสริญพระองค์ และให้เราเห็นถึงสติปัญญา ฤทธานุภาพ และความสัตย์ซื่อของพระเจ้า
2. มาคิดกันหน่อยว่า การฟื้นฟู และการทรงสร้างของพระเจ้าทำให้พระองค์เหนื่อยรึเปล่า? ไม่เลย! พระองค์สามารถสร้างอะไรก็ได้ โดยปราศจากความพยายาม เพียงแค่พระองค์คิด ทุกสิ่งก็จะเป็นไปตามนั้น ดังนั้น เมื่อพระองค์ได้ทรงเนรมิตสร้างจักรวาล ฟื้นฟูความสว่าง แยกน้ำออกจากกัน และให้พืชผักเกิดขึ้นได้แล้วละก็ น้องไม่ต้องสงสัยเลยว่าพระองค์จะสามารถดูแลน้องได้หรือไม่
“ขอให้พระเกียรติจงมีแด่พระองค์ผู้ทรงฤทธิ์ กระทำสารพัดมากยิ่งกว่าที่เราจะทูลขอหรือคิดได้” (เอเฟซัส 3:20ก)
3. พระเจ้าทรงสร้างทุกสิ่งให้ดีที่สุดเพราะพระองค์ทรงรักและคิดถึงเราเสมอ ถ้าน้องอยากจะตอบสนองต่อความรักของพระเจ้า วิธีเดียวคือ….
….เรียนหลักคำสอนพระคัมภีร์ต่อไปไง!
“จงถือไว้เป็นแบบแห่งคำสอนอันถูกต้อง [หลักคำสอนพระคัมภีร์]… … ในความเชื่อและความรักซึ่งมีอยู่ในพระเยซูคริสต์” (2 ทิโมธี 1:13)

บทที่ 6
การรื้อฟื้นโลก : วันที่ 4
“และให้ดวงสว่างเป็นหมายกำหนดฤดู และวัน และปี” (ปฐมกาล 1:14ข)
หัวข้อเรื่อง : การฟื้นฟูความสว่างในท้องฟ้า
คำศัพท์ : ขอบเขต นิรันดร์ ท้องฟ้า การสรรเสริญ
ข้อพระคัมภีร์ : “พระวจนะของพระองค์เป็นโคมสำหรับเท้าของข้าพระองค์ และเป็นความสว่างแก่ทางของข้าพระองค์” (สดุดี 119:105)
การอธิบายคำศัพท์ : ในพระคัมภีร์ คำว่า ‘สวรรค์’ มักจะหมายถึงสวรรค์ชั้นที่ 3 (2 โค-รินธ์ 12:2) คือที่ทรงสถิตย์ของพระเจ้าและบ้านใหม่ในอนาคตของผู้เชื่อ สวรรค์เป็นที่ซึ่งนิรันดร์ ส่วนคำว่า ‘ท้องฟ้า’ นั่นเกี่ยวกับบรรยากาศรอบโลก (สวรรค์ชั้นที่ 1) หรือไม่ก็จักรวาล (สวรรค์ชั้นที่ 2) ซึ่งมีขอบเขตที่จำกัด (1 พงศ์กษัตริย์ 18:27) และจะต้องสลายไปในที่สุด ตามแผนการของพระเจ้าและโดยฤทธานุภาพของพระองค์ (วิวรณ์ 21:1)
บทความ : พระเจ้าทรงเนรมิตสร้างทุกสิ่งอย่างสมบูรณ์แบบ และพระองค์ทรงชอบพระทัยกับทุกสิ่งที่พระองค์ทรงสร้างนั้น ในวันแรก พระองค์สร้างความสว่าง ดังนั้นจึงมีกลางวันและกลางคืน วันที่ 2 พระองค์สร้างท้องฟ้าและบรรยากาศรอบโลกเพื่อเราจะมีอากาศหายใจ ในวันที่ 3 พระองค์ได้แยกน้ำจากแผ่นดิน และพืชผักก็เติบโตขึ้น ถึงตอนนี้ยังเหลืออีก 3 วัน ในวันที่ 4 พระองค์ตรัสว่า
“จงมีดวงสว่างบนฟ้า เพื่อแยกกลางวันออกจากกลางคืน”
(ปฐมกาล 1:14ก)
พระเจ้ากำลังจะตกแต่งท้องฟ้า ดังนั้นพระเจ้าจึงใส่แสงสว่างไว้ในท้องฟ้า (ในที่นี้หมายถึงในจักรวาลอันไกลโพ้น) ดวงสว่างดวงใหญ่นั้นเรียกว่าดวงอาทิตย์ ดวงสว่างดวงเล็กเรียกว่าดวงจันทร์ พระเจ้าเติมท้องฟ้าด้วยแสงสว่างสุกใสมากมาย คือดาวฤกษ์ที่มีแสงสว่างในตนเอง สามารถกระพริบแสงได้ ซึ่งมีแต่พระเจ้าเท่านั้นซึ่งจะรู้จักจำนวนของมันได้ (สดุดี 147:4)
การมีฤดูกาลต่างๆ ทำให้เราเห็นถึงความสมบูรณ์แบบของสิ่งที่พระเจ้าทรงสร้าง เรานับเดือนจากดวงจันทร์ และนับปีจากดวงอาทิตย์ ระบบนี้ไม่เคยเปลี่ยนเลย เพราะว่าพระเจ้าทรงกำหนดไว้อย่างนั้นตั้งแต่แรกแล้ว
การประยุกต์หลักคำสอนพระคัมภีร์
1. พระเจ้าเป็นผู้ประดิษฐ์เวลา (ปฐมกาล 1:14) พระองค์ออกแบบแต่ละวันให้นานเท่ากับ 24 ชั่วโมง ไม่ใช่ 12 หรือ 36 ชั่วโมง พระเจ้าสร้างปี ให้มี 12 เดือน ไม่ใช่ 5 หรือ 15 เดือน เพราะพระองค์ทรงเป็นผู้ตั้งกฎของเวลาทั้งหมด ทั้งชั่วโมง วัน และปี ไม่เคยเปลี่ยนแปลง
2. นานมาแล้ว ก่อนที่พระเจ้าจะให้ชีวิตแก่เรา พระองค์ก็ได้กำหนดเวลาของเราแต่ละคนไว้แล้วว่าจะมีชีวิตยืนยาวแค่ใหน พระเจ้าทรงรู้ก่อนที่พระองค์จะสร้างดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ และดวงดาว ว่าน้องจะมีชีวิตกี่ปี กี่วัน กี่ชั่วโมง และกี่นาที พระเจ้าทรงควบคุมประวัติศาสตร์ เราไม่อาจทำให้ชีวิตของเราสั้นลงหรือยาวขึ้นได้แม้แต่วินาทีเดียว ถึงแม้ว่าการใช้ความคิดเสรีในการตัดสินใจของน้องมีส่วนสำคัญมากในการดำเนินชีวิตในแต่ละนาที แต่พระเจ้ายังทรงกำหนดไว้แล้วว่าน้องจะตายเมื่อไร แบบไหน และที่ไหน
“วันเวลาของเขา [มนุษย์] ถูกกำหนดไว้เสียแล้ว และจำนวนเดือนของเขาก็อยู่กับพระองค์
พระองค์ทรงกำหนดขอบเขตของเขาไม่ให้เขาผ่านไปได้” (โยบ 14:5)
“พระเจ้าทรงประสงค์สิ่งใด พระองค์ก็ทรงกระทำสิ่งนั้นให้เกิด
ในฟ้าสวรรค์และในแผ่นดินโลก ในทะเลและในน้ำลึกทั้งสิ้น”
(สดุดี 135:6)
3. พระเจ้าทรงคิดถึงน้องก่อนที่จะทรงสร้างจักรวาล พระองค์มีแผนการพิเศษสำหรับน้อง เช่นเดียวกับที่พระองค์มีแผนการสำหรับดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ ดวงดาว และทุกสรรพสิ่งที่พระองค์ทรงสร้าง พระองค์ต้องการให้น้องใช้ทุกวันอย่างมีประโยชน์ ให้รู้ถึงแผนการของพระองค์ และเรียนรู้ที่จะรักและเชื่อฟังพระองค์